เมนู

ในสัททารมณ์ที่ตนได้ยินมา ด้วยเหตุเพียงได้ยินได้ฟังมาเท่านั้นว่า เพราะ
เหตุนั้นแล สิ่งนี้ย่อมเป็นอย่างนี้โดยแน่นอน ยึดถือโดยนัยมีอาทิว่า สิ่ง
ทั้งปวงเที่ยงด้วยการยึดถือผิด ๆ หรือเมื่อไม่รู้ธรรมเป็นเหตุสลัดออกที่เป็น
ประโยชน์โดยส่วนเดียว ย่อมตกไปในหลุมถ่านเพลิงถ่ายเดียว กล่าวคือ
ภพ 3 ที่ไฟ 11 กองมีราคะเป็นต้นลุกโชนแล้ว เหมือนแมลงเม่าเหล่านี้
ตกไปสู่เปลวเพลิงนี้ฉะนั้น อธิบายว่า เขาไม่อาจจะเงยศีรษะขึ้นได้ จาก
หลุมถ่านเพลิงนั้น.
จบอรรถกถาอุปาติสูตรที่ 9

10. อุปปัชชันติสูตร



ว่าด้วยแสงหิ่งห้อยกับแสงอาทิตย์



[146] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่าน
พระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติขึ้น
ในโลก เพียงใด พวกอัญญเดียรถีย์ย่อมเป็นผู้อันมหาชนสักการะ เคารพ
นับถือ บูชา ยำเกรง และได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัย
เภสัชบริขาร เพียงนั้น แต่เมื่อใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก ย่อมเป็นผู้อันมหาชนไม่